ตามเนื้อผ้า ผู้ชมหลายพันล้านคนดูการแข่งขันฟุตบอลโลก และในขณะที่พวกเขาจดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม ชื่อของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางแห่งจะฉายอยู่ข้างหลังผู้เล่นในวงกลมสีทางเทคนิค – Budweiser, Visa, Coca-Cola, Qatar แอร์เวย์, Adidas, McDonalds, Wanda, Vivo, Hyundai Kia แต่กาตาร์ 2022 แตกต่างออกไป
หลายแบรนด์เหล่านี้ โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีรากฐานมาจากโลกตะวันตก ได้กลายเป็นจุดสนใจทางภูมิรัฐศาสตร์ของทัวร์นาเมนต์นี้ โดยสร้างความสมดุลระหว่างการสนับสนุนกับคำวิจารณ์ในระดับฟีฟ่า องค์กรปกครองโลกฟุตบอล และกาตาร์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นสิทธิมนุษยชน
ไม่ใช่ว่ามันส่งผลกระทบต่อผลกำไรของฟีฟ่าGianni Infantino ประธาน FIFA กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่การแถลงข่าวว่าองค์กรได้รับรายได้เป็นประวัติการณ์ 7.5 พันล้านดอลลาร์จากข้อตกลงทางการค้าที่เชื่อมโยงกับฟุตบอลโลกปี 2022 ซึ่งมากกว่ารายได้จากฟุตบอลโลกปี 2018 ถึง 1 พันล้านดอลลาร์
และในระหว่างการแข่งขันรอบต่อไปจนถึงฟุตบอลโลกปี 2026 ที่จัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา Infantino คาดการณ์รายรับ 11 พันล้านดอลลาร์ ไม่ใช่แค่บริษัทเท่านั้นที่ปรับ ‘แบรนด์’ ให้เข้ากับฟุตบอลโลกครั้งนี้ มีอดีตผู้เล่นหลายคน รวมถึง Tim Cahill, Cafu, Samuel Eto’o
และ Xavi ที่รับบทบาททูตประจำทัวร์นาเมนต์ ที่โดดเด่นที่สุดคือ เดวิด เบ็คแฮม ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการเป็นทูตของทัวร์นาเมนต์ โดยเผชิญกับข้อกล่าวหาว่าอาจทำให้ ‘แบรนด์’ ของเขาเองเสื่อมเสียได้
แบรนด์ของเบ็คแฮมเป็นที่รู้จักพอๆ กับบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง นอกจากการเป็นทูตประจำกาตาร์แล้ว เบ็คแฮมยังได้ร่วมงานกับ Adidas แบรนด์นาฬิกา Tudor และ Haig Club แบรนด์วิสกี้ของเขาเองอีกด้วย เบ็คแฮมยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมเจ้าของสโมสรฟุตบอล MLS Inter Miami
“ฉันคิดว่าเมื่อมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ในรูปแบบใดก็ตาม แต่แน่นอนว่าการให้การสนับสนุนหรือการสนับสนุน [หรือ] บทบาททางการทูตนั้นมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์” Simon Chadwick ศาสตราจารย์ด้านกีฬาและเศรษฐศาสตร์การเมืองที่ SKEMA Business School ‘แบรนด์ระดับโลกขนาดใหญ่ ‘ นับตั้งแต่กาตาร์ได้รับการเสนอชื่อในปี 2010 ให้เป็นประเทศเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2022 สถิติด้านสิทธิมนุษยชนของกาตาร์ก็อยู่ในจุดสนใจ
ตั้งแต่การเสียชีวิตและสภาพที่แรงงานข้ามชาติต้องทนทุกข์ทรมาน ไปจนถึง LGBTQ และสิทธิสตรีคำวิจารณ์ส่วนใหญ่ที่มีต่อฟีฟ่าและกาตาร์มาจากประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือที่สามารถทำได้อย่างเสรี แต่มีผู้สนับสนุนการแข่งขันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคเหล่านี้
แบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศเหล่านี้ เช่น Adidas หรือ McDonald’s มีฐานผู้บริโภคอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงผู้บริโภคที่มีเสรีภาพหลากหลายในการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นสิทธิมนุษยชน “เมื่อทีมการตลาดภายในแบรนด์ระดับโลกขนาดใหญ่เหล่านี้กำลังมองหาฐานลูกค้าของพวกเขาที่แตกแยก
ผู้บริโภคที่มีจริยธรรมในยุโรปตะวันตกหรือในอเมริกาเหนือเป็นตัวอย่างก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น และพวกเขาจะได้เข้าร่วมการแข่งขันโดยรู้เท่าทัน” Ben Peppi หัวหน้าฝ่ายบริการกีฬาของ JMW Solicitors
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.foldafeeder.com/